วันพฤหัสบดีที่๑๕พฤษภาคม๒๕๕๗ นายปณิวัฒน์
สีหาทับ
เจ้าหน้าที่ภาคสนามโครงการส่งเสริมการป้องกันเอดส์ในแรงงานข้ามชาติ (ฟ้ามิตร 2 จ.อุดรธานี) จากมูลนิธิรักษ์ไทยอุดรธานี ในนามผู้จัดการประชุม ขอขอบพระคุณท่าน…พ.ต.ท. จันทวี ชาวชายโขง เป็นอย่างสูง
ที่ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมในวันนี้ กระผมขอรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดการอบรมในครั้งนี้
พอสังเขป
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานได้ระบุความต้องการแรงงานข้ามชาติของนายจ้าง
ในปี พ.ศ. 2556
รวมจำนวนทั้งสิ้น 651,143
คน
ขณะที่มีแรงงานข้ามชาติที่ได้รับการปรับเปลี่ยนสถานะและได้รับอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพียง
358,908 คน (กัมพูชา 117,089 พม่า 112,250
ลาว 62,896 คน)
และในจำนวนนี้ได้เข้าสู่การประกันสุขภาพประมาณ 250,000 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ดีค่าประมาณการจำนวนประชากรข้ามชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี พ.ศ. 2556 ระบุจำนวนที่สูงถึง 2,132,000 คน
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรกลุ่มนี้
ยังพำนักอาศัยหรือทำงานในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเหตุให้การดูแล
รักษาสุขภาพ และป้องกันโรค มีความยากลำบากและขาดความครอบคลุม
แม้ว้าหลายหน่วยงานพยายามที่จะแก้ไข แต่นโยบายด้านการสาธารณสุขของรัฐ
ยังขาดความต่อเนื่องและเป็นอุปสรรคในการดำเนินงานกับประชากรกลุ่มนี้
มูลนิธิรักษ์ไทยได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการป้องกันเอดส์ในแรงงานข้ามชาติ
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ
ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เอช ไอ วี ค่อนข้างสูง
เนื่องจากมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย รวมทั้งการขาดความเข้าใจและความตระหนัก
เกี่ยวกับ โรคเอดส์และการป้องกันที่ถูกวิธี
การให้ความรู้เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องเอดส์
จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
เอช ไอ วี มูลนิธิรักษ์ไทยร่วมกับโรงพยาบาลบ้านผือได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดประชุมในครั้งนี้ ขึ้น
-
เพื่อให้เกิดเครือข่ายการเฝ้าระวังด้านสุขภาพต่อสถานการณ์แรงงานข้ามชาติในพื้นที่อำเภอบ้านผือและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิด้านสุขภาพแรงงานข้ามชาติร่วมกับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่อำเภอบ้านผือ อันจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานด้านบริการสุขภาพแรงงานข้ามชาติร่วมกัน
การจัดงานครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ในเขตอำเภอบ้านผือ
จำนวน 20 คน
วิธีการจัดการประชุม ประกอบด้วยการ
บรรยาย สาธิต และได้รับการสนับสนุน วิทยากรจากพยาบาลวิชาชีพชำนาญการโรงพยาบาลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
ร่วมกับคณะวิทยากรจากมูลนิธิรักษ์ไทยจังกวัดอุดรธานี
เมื่อเวลา09.00น พ.ต.ท.จันทวี
ชาวชายโขงได้กล่าวเปิดงาน พร้อมให้โอวาท
จากการกล่าวรายงาน จะเห็นได้ว่า
การย้ายถิ่นข้ามชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่ม
มากขึ้นทุกปี และปรากฏการณ์นี้จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสังคม
เศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมอย่างมหาศาล
สำหรับประเทศไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลจากการอพยพแรงงานข้ามชาติ
โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ
กัมพูชา ลาวและพม่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานไร้ฝีมือ
ประเด็นดังกล่าวจึงกลายเป็นนโยบายระดับชาติที่ต้องได้รับการจัดการ การโยกย้ายของแรงงาน
ส่งผลต่อ ปัญหาด้านสุขภาพโรคติดต่อ และปัญหาต่างๆจะตามมาหากไม่มีแนวนโยบายการจัดการและการป้องกันที่ดี
ปัญหาต่างๆของแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ เป็นปัญหาที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาครัฐเพื่อให้เกิดแนวนโยบาย
การจะแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ในรูปแบบเครือข่ายเฝ้าระวัง
เพื่อสื่อสารสถานการณ์รายงานข้อเท็จจริงในพื้นที่ สรุปรวบรวมวิเคราะห์
ผลักดันสู่การแก้ไขเชิงนโยบายร่วมกันต่อไป
ผมรู้สึกภูมิใจ และ ขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายทุกคนของอำเภอบ้านผือ ที่ทุมเท กำลังกาย
และใจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆโดยเฉพาะด้านสาธารณสุข
มาตลอดโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ผมขอขอบคุณหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในหารจัดงานครั้งนี้ และขอให้การจัดงานครั้งนี้
บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ทุกประการ
และ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย ดลบันดาลให้ทุกท่าน มีความสุขความเจริญ สุขภาพกาย ใจ ดี ประสบความสำเร็จตามที่ปรารถนา
บัดนี้
ได้เวลาอันสมควรแล้ว ผมขอเปิดการประชุมเชื่อมโยงเครือข่ายเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้ กฎหมายเพื่อสร้างความเข้าใจต่อแรงงานข้ามชาติ พื้นที่อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ต่อมาเมื่อเวลา12.00น พ.ต.ท.จันทวี ชาวชายโขงพิธีปิดการประชุม
ที่ห้องประชุมชั้น3 สถานีตำรวจอำเภอบ้านผือ
จังหวัดอุดรธานีสนับสนุนข่าวโดย นสพ ตำรวจพลเมือง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี รายงานโทร0874909302
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น